โดยทั่วไปในการจ้างงาน ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานก็มักจะนึกถึงกำหนดวันเวลาทำงาน ค่าจ้าง ค่าทำงานล่วงเวลาหรือโอที วันหยุด วันลาต่างๆ ตลอดจนสิทธิที่ผู้ใช้แรงงานพึงได้เมื่อเกิดการเลิกจ้างซึ่งเป็นสิทธิตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน สิทธิหน้าที่ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่กฎหมายแรงงานได้กำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบกิจการที่จะต้องจัดหรือแจ้งให้ผู้ใช้แรงงานทราบ แต่มิได้หมายความว่าผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการจะมีสิทธิหน้าที่ต่อกันเพียงเท่านี้ เพราะในปัจจุบันกฎหมายแรงงานยังกำหนดให้ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่ในการจ่ายเงินสมทบเข้าทั้งกองทุนเงินทดแทน และกองทุนประกันสังคม ซึ่งในทางธุรกิจถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายในทางสังคมให้กับผู้ใช้แรงงาน เพื่อที่ว่ากองทุนฯ จะได้จ่ายเงินที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการให้กับผู้ใช้แรงงานเมื่อเขาเหล่านั้นเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งในส่วนของผู้ใช้แรงงานเองก็มีหน้าที่ในการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมด้วยเพื่อเก็บสมทบเป็นค่าใช้จ่ายในยามที่ตนเจ็บป่วย หรือเกษียณอายุ แต่แม้ว่าจะมีเงินจากกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ ก็อาจจะไม่เป็นการเพียงพอเมื่อผู้ใช้แรงงานตกอยู่ในสภาวะตกงาน หรือชราภาพ ดังนั้นจึงเกิดแนวคิดในการให้ผู้ใช้แรงงานรู้จักอดออมเก็บสะสมเงินไว้แต่เนิ่นๆ ในรูปของการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดให้ผู้ใช้แรงงานเป็นสมาชิกในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เมื่อฟังคร่าวๆ อาจเกิดทั้งความน่าสนใจและความสับสนว่าทั้ง “เงินทดแทน” “ประกันสังคม” และ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” มีความสำคัญอย่างไรกับทั้งผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบกิจการกันแน่ ดังนั้นการอบรมในหลักสูตรนี้จึงเป็นการใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงเพื่อให้ผู้รับการอบรมได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับทั้งผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการ อย่างลึกซึ้งและเจาะประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ
1. ความเป็นมาเป็นไปของ “เงินทดแทน” “ประกันสังคม” และ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ”
2. บุคคลที่เกี่ยวข้องกับสิทธิหน้าที่ในเงินทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว โดยเฉพาะตัวผู้ประกอบการว่าผู้ประกอบการใดบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินดังกล่าวนี้ และผู้ใช้แรงงานประเภทใดบ้างที่อยู่ภายใต้กฎหมายที่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินทั้ง 3 กองทุนนี้
3. สิทธิและหน้าที่ที่ “ผู้ประกอบการ” มีตามกฎหมายต่อเงินทั้ง 3 กองทุน
4. สิทธิและหน้าที่ที่ “ผู้ใช้แรงงาน” มีตามกฎหมายต่อเงินทั้ง 3 กองทุน
รูปแบบการอบรมสัมมนา
1. บรรยายโดยสรุปสาระสำคัญของกฎหมายแรงงานประกอบหลักฎีกา กรณีตัวอย่าง
2. ถาม – ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3. แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกัน
วิทยากร อาจารย์ ดร.ศุภศิษฎ์ ทวีแจ่มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยปอลเซซาน ประเทศฝรั่งเศส หัวข้อวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก “โครงสร้างกฎหมายแรงงานไทย : ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคม กับการค้นหาความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการพัฒนากฎหมายแรงงานไทย” วิทยานิพนธ์ดีเด่นสาขากฎหมายเปรียบเทียบและกฎหมายต่างประเทศ ผลงานวิชาการ เขียนตำรา “Memorandum of Thai Labour Law” ฯลฯ
กำหนดการ
|
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558
|
บุคคลทั่วไป
|
4,500 + 315 = 4,815
|
เวลา
|
09.00-16.00 น.
|
สมาชิก, โอนเงินก่อน 16 ก.ค. 2558
|
4,300 + 301 = 4,601
|
สถานที่
|
โรงแรมอมารี บูเลอวาร์ด (สุขุมวิท ซ.5)
|
ลงทะเบียน 2 ท่าน
|
8,000 + 560 = 8,560
|
หมายเหตุ – ค่าลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนา สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 200%
– ราคานี้รวมค่าเอกสารประกอบสัมมนา, อาหารกลางวัน, น้ำชา-กาแฟ
กรุณาดาวน์โหลดหลักสูตรและใบลงทะเบียนได้ที่นี่ หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อลงทะเบียน