1. หลักการและเหตุผล
การประกอบธุรกิจในปัจจุบันนี้อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการแข่งขันที่สูงมาก ดังนั้นเอง ความอยู่รอด (Survival) และศักยภาพแห่งการเจริญเติบโต (Growth Potential) จึงขึ้นอยู่กับบุคลากรที่มีความรู้(Knowledge : K) ความเข้าใจ (Understanding : U) ทัศนคติที่ดีต่องาน (Attitude : A) และทักษะความชำนาญงาน (Skill : S)
ประเด็นปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรพนักงานของบริษัทจึงจะได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาอย่างเป็นระบบและทั่วถึงในขณะที่การขยายตัวของบริษัทเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ มีการปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง การใช้วิทยากรภายนอกเข้ามาเป็นผู้ถ่ายทอดก็ทำได้เพียงการให้ความรู้กว้างๆ เท่านั้น เป็นวิชาการมากเกินไป ไม่สามารถเจาะลึกในตัวเนื้องานของบริษัทธุรกิจได้โดยตรง
จากสภาพการณ์ดังกล่าวข้างต้นนี้เอง จึงเห็นสมควรที่จะได้มีการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “ทักษะการเป็นวิทยากรฝึกอบรม (Training for the Trainer)” ขึ้น ซึ่งหลักสูตรนี้จะแก้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น และยังถือได้ว่าเป็นการลงทุนในตัวทรัพยากรบุคคลที่คุ้มค่า เพราะผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ จะทำหน้าที่เป็นวิทยากรภายในเพื่อการขยายผลการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานของบริษัทสืบต่อไป จะช่วยสร้างเสริมทีมงานแห่งการเรียนรู้ของบริษัท และการสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ในภาพรวม
2. วัตถุประสงค์การฝึกอบรม
1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ ตลอดจนคุณสมบัติที่เหมาะสมของการเป็นวิทยากรภายในของบริษัท
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีความรู้ความเข้าใจในการเตรียมการบรรยาย และการเลือกเทคนิคการฝึกอบรมแบบต่างๆ จนสามารถนำหลักการประยุกต์ใช้สำหรับการทำหน้าที่เป็นวิทยากรได้อย่างมีประสิทธิผล
3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถจัดเตรียมแผนการสอนและใช้โสตทัศนูปกรณ์เพื่อการฝึกอบรมได้อย่างบรรลุวัตถุประสงค์แห่งการเรียนรู้ ของแต่ละหัวข้อวิชา
4. เพื่อฝึกฝนทักษะและประสบการณ์ตรง ในการทำหน้าที่เป็นวิทยากรหน้าห้องฝึกอบรม จนเกิดความเชื่อมั่นที่จะทำหน้าที่เป็นวิทยากรภายในของบริษัทได้อย่างมีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
3. ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการฝึกอบรม เมื่อสิ้นสุดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้ผ่านการฝึกอบรมจะสามารถ
1. ทำหน้าที่เป็นวิทยากรภายในของฝ่ายงานต้นสังกัดเพื่อสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ทำหน้าที่เป็นวิทยากรรับเชิญ ของฝ่ายฝึกอบรมและพัฒนา ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับพนักงานของบริษัท และบริษัทในเครือ แนะนำสินค้าและบริการ ให้กับลูกค้าได้อย่างประทับใจ
3. ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายสรุปงานในกรณีที่คณะบุคคลมาขอเยี่ยมชมกิจการ และ/หรือฝ่ายจัดการมาตรวจเยี่ยมนิเทศงาน
4. คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
1. เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการฝึกอบรม และ/หรือ สอนงานพนักงาน
2. เจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงในงาน (Mentor)
3. เจ้าหน้าที่ซึ่งฝ่ายงานต้นสังกัดได้คัดเลือก และจะมอบหมายให้ทำหน้าที่วิทยากรภายใน
4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องเตรียมเรื่องที่จะบรรยาย ถ่ายทอด มาล่วงหน้า คนละ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
5. โครงสร้างและรายละเอียดของหลักสูตรในการฝึกอบรม
วันที่ 1 ของการฝึกอบรม
1. ภาพรวมสู่การเป็นวิทยากรที่มีประสิทธิผล
- ความหมายและความสำคัญของการฝึกอบรม
- หลัก OLE. ในการฝึกอบรม
- บทบาทภาระหน้าที่ของวิทยากรฝึกอบรม
- จิตวิทยาการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ในการฝึกอบรม
- การเลือกใช้เทคนิคการฝึกอบรมแบบต่างๆ (เน้นตัววิทยากร กลุ่มผู้เข้ารับการฝึกรายบุคคลและโสตทัศนูปกรณ์)
- VDO. “How to be effective Trainer”
- คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับวิทยากร
- เทคนิคการพูดจูงใจเพื่อการเป็นวิทยากร
- Workshop 1. ฝึกปฏิบัติการพูดจูงใจ (คนละ 5-8 นาที)
- สรุป อภิปราย ตอบข้อซักถาม
2. เทคนิคการเป็นวิทยากร รอบที่ 1
- การจัดทำแผนการสอน
- การวิเคราะห์เนื้อหา
- การวิเคราะห์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม
- การวิเคราะห์วิธีการถ่ายทอด
- การจัดเตรียมอุปกรณ์ สื่อ โสตทัศนูปกรณ์ LCD
- Workshop 2. ฝึกการทำหน้าที่เป็นวิทยากร (คนละ 15 นาที)
- ผู้เข้ารับการฝึกอบรมผลัดกันทำหน้าที่ประเมินผลตามแบบประเมินผลที่วิทยากรกำหนด
- วิทยากรให้คำแนะนำเพิ่มเติม
- ประเมินความก้าวหน้าของการฝึกอบรม วันที่ 1
วันที่ 2 ของการฝึกอบรม
3. เทคนิคการเป็นวิทยากร รอบที่ 2
- เทคนิคการสาธิตและฝึกปฏิบัติ
- เทคนิคการใช้กรณีศึกษา
- เทคนิคการใช้กิจกรรมและเกมในการฝึกอบรม
- ผู้เข้ารับการฝึกอบรมตัดสินใจเลือก 1 เทคนิคเพื่อใช้ในการฝึกปฏิบัติรอบที่ 2
- เตรียมการวางแผนในการเป็นวิทยากรรอบที่ 2
4. ฝึกปฏิบัติรวบยอดการใช้เทคนิคผสมผสาน
- กำหนดบทบาทหน้าที่ ผู้สอน ผู้เรียน ผู้ประเมินผล
- Workshop 3. ฝึกปฏิบัติโดยเลือกใช้เทคนิคอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง
- ผู้เข้ารับการฝึกอบรมผลัดกันประเมินผล
- การแจ้งผลและอภิปรายจากกลุ่มผู้เข้ารับการฝึก
5. สรุป อภิปราย ตอบข้อซักถาม และประเมินผลการฝึกอบรม
- สรุปสาระสำคัญ ทบทวน
- ประเมินผลการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
- เปิดให้อภิปราย ซักถาม
- ปิดการฝึกอบรม
6. วิธีการฝึกอบรม
เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เน้น Workshop การฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การใช้กรณีศึกษา กิจกรรม และเกมเพื่อการเรียนรู้ การสาธิตการใช้โสตทัศนูปกรณ์ Computer & LCD.
7. วิทยากร : ดร.ทนง ทองเต็ม หัวหน้าแผนกฝึกอบรม การไฟฟ้านครหลวง ผู้จัดการศูนย์ฝึกอบรม บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย IFCT. ประธานฝ่ายวิชาการ สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย PMAT. วิทยากร Shell Esso Caltex TPI. NPC. 3M ABB. TMA. MSC. STI. Bridgestone TIG. Siam Cotto. ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย เครือเกษตรรุ่งเรืองพืชผล เครือสหพัฒนพิบูล เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือเทเลคอมเอเซีย SC&C. UBC. โรงแรม Oriental Bangkok, Novotel, Central, Sheraton ชมรมโรงแรมแห่งประเทศไทย ฯลฯ……………………………..
กำหนดการ
|
วันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2556
|
ค่าลงทะเบียน : บุคคลทั่วไป
|
9,000 + 630 = 9,630
|
เวลา
|
09.00-16.00 น.
|
ค่าลงทะเบียน : สมาชิก
|
8,100 + 567 = 8,667
|
สถานที่
|
โรงแรมอมารี ดอนเมือง
|
โอนเงินภายในวันที่ 11 พ.ย. 2556
|
8,500 + 595 = 9,095
|
หมายเหตุ – ค่าลงทะเบียน รวมค่าเอกสาร, อาหาร เครื่องดื่ม น้ำชา กาแฟสด
– ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสัมมนาสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 200%
กรุณาดาวน์โหลดหลักสูตรและใบลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือกรอกข้อมูลข้างล่างนี้เพื่อให้ทางเราติดต่อกลับ