หลักการและเหตุผล
การที่องค์การจะกระทำภารกิจหลักให้บรรลุวัตถุประสงค์และมีการเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้น องค์การจำเป็นจะต้องมีแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทของธุรกิจ อีกทั้งมีวิธีการวัดผลงานที่ถูกต้อง ชัดเจน เป็นธรรม และง่ายต่อการตีความให้เข้าใจได้ตรงกัน แต่ปัญหาที่มักพบในทุกองค์กร คือ การกำหนดดัชนีชี้วัดผลงานหลักที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม รวมถึงการถ่ายทอดดัชนีชี้วัดผลงานจากระดับองค์กร ลงสู่ระดับหน่วยงาน และระดับบุคคลที่ไม่สะท้อนผลลัพธ์กลับไปยังองค์กรได้อย่างเป็นธรรมว่า หน่วยงานใด หรือผู้ใดที่เป็นผู้สร้างความสำเร็จให้กับองค์กรมากกว่ากัน เพื่อที่ว่าผู้บริหารจะสามารถจัดสรรผลประโยชน์ได้อย่างถูกฝาถูกตัว ก่อให้เกิดแรงจูงใจและขวัญกำลังใจที่จะรังสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้นได้ต่อไป
หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติจนได้ดัชนีชี้วัดผลงานหลักที่ตรงกับลักษณะงานและความรับผิดชอบ ตลอดจนสามารถนำดัชนีชี้วัดหลักที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในการบริหารผลงาน ติดตาม รายงาน ตอบแทนความทุ่มเทและความพยายามรายบุคคลได้อยู่เหมาะสม และสอดคล้องกันระหว่างความสำเร็จในระดับองค์กรและระดับบุคคล กล่าวคือ องค์กรประสบความสำเร็จได้ก็เนื่องมาจากผลงานที่แต่ละบุคคลที่รังสรรค์ขึ้นเช่นกัน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการวัดผลงานที่ถูกต้อง (Measurement Principle)
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำแนวคิดและหลักการเกี่ยวกับการวัดผลงานข้างต้นมาจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลักในระดับองค์กร ระดับทีมงาน และระดับพนักงานได้ด้วยตนเอง
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงวิธีการนำดัชนีชี้วัดผลงานหลักไปใช้ประโยชน์ และสามารถป้องกันปัญหาจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้การใช้ดัชนีชี้วัดผลงานหลักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงได้รับฟังข้อท้วงติง ข้อคิด ข้อควรระวัง เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์และปรับปรุงดัชนีชี้วัดผลงานได้อย่างถูกต้อง
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
การจัดฝึกอบรมครั้งนี้จะส่งผลให้แต่ละส่วนได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. บริษัทมีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารเป้าหมายดังกล่าวให้พนักงานรับทราบได้โดยง่าย
2. พนักงานในระดับต่างๆ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และรับทราบว่าการทำงานของตนมีส่วนช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างไร
3. สร้างความเป็นธรรมในการทำงานให้กับพนักงานและมีส่วนช่วยจูงใจให้พนักงานทำงานในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้เข้าอบรม
1. ได้รู้ว่าตนเองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำดัชนีชี้วัดผลงานมาก/น้อยเพียงใด อะไรคือจุดที่ยังพิจารณาได้ไม่รอบคอบ (Improvement Area) อะไรคือจุดที่ต้องคงสถานะไว้ เพราะเป็นจุดแข็งหรือจุดเด่นของตนเอง (Strengthen Area)
2. ได้รับโอกาสในการรับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ และเกิดความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติได้มากขึ้น
3. มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือต่างๆ และเห็นมุมมองที่แตกต่าง เพื่อนำไปต่อยอดสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาดัชนีชี้วัดผลงานได้อย่างดีเยี่ยมต่อไป
รูปแบบการเรียนรู้ เป็นการฝึกอบรมแบบเข้มข้น (Intensive Learning Course) ผ่านวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นการลงมือปฏิบัติมากกว่าการได้ฟัง ซึ่งได้แก่ การบรรยาย การยกกรณีตัวอย่าง (Example Case) ทั้งที่ล้มเหลวและประสบความสำเร็จ เน้นการลงมือปฏิบัติ (Workshop) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำผลการเรียนรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ จนสุดท้ายสามารถพัฒนาดัชนีชี้วัดผลงาน และสามารถให้ข้อเสนอแนะต่อการจัดทำดัชนีชี้วัดผลงานที่ถูกต้องได้เอง
หัวข้อการฝึกอบรม
· ปูพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการจัดทำดัชนีชี้วัดผลงาน ได้แก่
- นิยาม ความหมาย ความจำเป็นที่ต้องมีการวัดผลงาน
- วิวัฒนาการของการวัดผลงาน และเครื่องมือที่ใช้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- วิธีการตั้งเป้าหมาย และดัชนีชี้วัดผลงานหลักองค์กร
- วิธีการตรวจสอบคุณภาพดัชนีชี้วัด และปัจจัยแห่งความสำเร็จในการสร้างดัชนีชี้วัดด้วยหลักการ SMART
· ทดลองออกแบบดัชนีชี้วัดผลงาน ด้วยกระบวนการวิเคราะห์ Workflow & Stakeholder Analysis, KPI Alignment
· Analysis from BSC to Department & Individual KPI
· รูปแบบของระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี
- เทคนิคการกำหนดปัจจัยและน้ำหนักที่จะใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน
- เทคนิคการกำหนดผู้ประเมินและรอบการประเมิน
- เทคนิคการติดตามผลและการสอนงาน
- เทคนิคการแจ้งผลการปฏิบัติงานประจำปี
· การบริหารผลงานเพื่อให้ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมาย
- เทคนิคการติดตามผลและการสอนงาน
- เทคนิคการให้รางวัล และแรงเสริมเพื่อจูงใจให้มีผลงานสูงขึ้น
- เทคนิคการแจ้งผลการปฏิบัติงานประจำปี
· ทดลองฝึกปฏิบัติแจ้งผลการปฏิบัติงานและแนวทางการพัฒนารายบุคคล
· สรุปบทเรียน ทบทวนวิธีการจัดทำ และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อการนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและถูกต้องสูงสุด
วิทยากรในการฝึกอบรม : อาจารย์ ดร.สันติชัย อินทรอ่อน วิทยากรและที่ปรึกษา
การศึกษา
· ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) สาขารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
· รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารทรัพยากรมนุษย์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
· บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร
ประสบการณ์การทำงาน
Ø ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจทรัพยากรบุคคลและที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท โกลบัล คอนเซิร์น จำกัด
Ø นักวิจัย สถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Ø ผู้ช่วยที่ปรึกษา บริษัท เอเชียแปซิฟิคคอนซัลแตนท์ จำกัด
กำหนดการ
|
วันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2564
|
บุคคลทั่วไป
|
7,800 + 546 = 8,346
|
เวลา
|
09.00-16.00 น.
|
สมาชิก, โอนเงินก่อน 28 ม.ค.2564
|
7,000 + 490 = 7,490
|
สถานที่
|
โรงแรมโนโวเทล
ถ.สุขุมวิท ซ.20
|
สมัคร 3 คนขึ้นไป ท่านละ 6,400
|
6,400 + 448 = 6,848
|
สมัคร 5 คนขึ้นไป ท่านละ 5,800
|
5,800 + 406 = 6,206
|
หมายเหตุ - ค่าลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 200%
- ราคารวมเอกสารประกอบการสัมมนา, อาหารกลางวัน, น้ำชา-กาแฟ
กรุณาดาวน์โหลดหลักสูตรและใบลงทะเบียนที่นี่ หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อลงทะเบียน